ใครที่เป็นสายบุญเตรียมตัวให้พร้อม เพราะเราจะพาคุณไปตะลุย 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของ เมืองแปดริ้ว ที่คุณไม่ควรพลาด ซึ่ง เมืองแปดริ้ว หรือ จังหวัดฉะเชิงเทรา ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดใกล้กรุงที่มีวัดวาอารามสวยงามตระการตา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนมักเดินทางมาขอพรและทำบุญกันไม่ขาดสายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถ้าคุณพร้อมแล้ว เรามาตะเวนบุญกันเลย…
1. วัดโสธรวราราม วรวิหาร
วัดโสธรวราราม วรวิหาร หรือวัดหลวงพ่อโสธร เป็นวัดที่สายบุญรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะมีชื่อเสียงโด่งดังมาก และเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ใครมาฉะเชิงเทราก็ต้องแวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดโสธรวรารามฯ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง เป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อพระพุทธโสธร” หรือ “หลวงพ่อโสธร” พระพุทธรูปหล่อสำริดปางสมาธิอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของทั้งชาวเมืองแปดริ้วและนักท่องเที่ยว
ภายในวัดมีพระอุโบสถที่สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง มีขนาดใหญ่และสวยงามเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบ
เชื่อกันว่า ผู้ใดมาขอพร หลวงพ่อพุทธโสธร จะสมปรารถนา ทั้งเรื่องการค้าขาย สุขภาพ ความสำเร็จ เงินทอง หรือ โชคลาภ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เลื่อมใสและศรัทธาเดินทางมาขอพรกันเป็นจำนวนมาก
- ที่อยู่ : ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
- เปิดให้เข้าชม : 07.00-16.30 น.
- แผนที่ : https://goo.gl/maps/yxR9QBZ3ZCs2NBCE9
รูปภาพจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดฉะเชิงเทรา
รูปภาพจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
2. วัดสมานรัตนาราม
อีกหนึ่งวัดชื่อดังแห่งเมืองแปดริ้ว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกงเช่นเดียวกันกับ วัดโสธรวราราม วรวิหาร นั่นคือ วัดสมานรัตนาราม วัดแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 26 ไร่ และตั้งอยู่ในตำแหน่งฮวงจุ้ยที่เป็นมงคล
ภายในมี “พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” มีขนาดความสูงถึง 16 เมตร และยาว 22 เมตร เนื้อองค์เป็นสีชมพูมีความสวยงามอลังการมาก รอบฐานยังมีพระพิฆเนศปางต่างๆ ถึง 32 ปาง
มีความเชื่อกันว่า องค์พระพิฆเนศ เป็นเทพแห่งความสำเร็จทุกประการ ขอสิ่งใดก็จะสมหวังดังที่ตั้งใจไว้ โดยพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขนั้น ยังมีความหมาย ถึงความสุขสบาย มั่งคั่ง รื่นร่ม หมดทุกข์ ไร้โศก อิ่มหนำสำราญ มีกินมีใช้ มีโชคลาภ มหามงคล
นอกจากพระพิฆเนศแล้ว วัดสมานรัตนารามยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ อีกมากมายภายในบริเวณวัด ไม่ว่าจะเป็น “พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานบุตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ท้าวมหาพรหม พระธาตุอินทร์แขวนจําลอง อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ ในดอกบัวกลางแม่น้ำที่สวยงามมากอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงถือเป็นที่รวมศรัทธาของผู้คนมากมายที่เดินทางมาสักการะและขอพรเป็นจำนวนมาก
- ที่อยู่ : ริมแม่น้ำบางปะกง ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
- เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
- แผนที่ : https://goo.gl/maps/p8WbAD7MbbWZokRE7
3. วัดโพรงอากาศ
วัดโพรงอากาศ เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามและศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ในตำบลโพรงอากาศ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว พื้นที่วัดล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีอุโบสถมหาเจดีย์สีทองอร่าม ตั้งโดดเด่นสวยสง่า โดยอุโบสถแห่งนี้ผสมผสานศิลปะแบบลังกา อินเดีย และไทย เข้าด้วยกัน ทำให้มีลักษณะเฉพาะที่สวยงามแปลกตา ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุส่วนหน้าอก ที่อัญเชิญมาจากอินเดีย ให้ประชาชนได้มากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ซุ้มประตูด้านหลังองค์เจดีย์ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางยืนแสดงธรรมอยู่บนฐานกลีบบัว หันหน้าไปทางลานโล่ง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม นอกจากนี้ภายในวัดยังมี อุทยานพระพิฆเนศ มีพระพิฆเนศปางนั่งประทานพร องค์ใหญ่ ให้ได้สักการะขอพรกันอีกด้วย
- ที่อยู่ : ถนนบางน้ำเปรี้ยว-ฉะเชิงเทรา ตำบลโพรงอากาศ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา
- เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
- แผนที่ : https://goo.gl/maps/9XtXG66nANPdtvf96
รูปภาพจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดฉะเชิงเทรา
4. วัดอุภัยภาติการาม หรือ วัดซำปอกง
วัดอุภัยภาติการาม หรือ วัดซำปอกง ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง บนถนนศุภกิจ ใกล้กับตลาดบ้านใหม่ เป็นวัดที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” หรือ ที่ชาวจีนเรียกว่า “เจ้าพ่อซำปอกง” เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งมีเพียง 1 ใน 3 องค์ ในประเทศไทยเท่านั้น โดยมีประดิษฐานอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร (ฝั่งธนบุรี) จังหวัดกรุงเทพฯ วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัดอุภัยภาติการาม จังหวัดฉะเชิงเทราแห่งนี้
วัดอุภัยภาติการาม เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานนามให้ เมื่อครั้งเสด็จมาที่วิหารหลวงพ่อโตแห่งนี้ ในปี พ.ศ. 2450 และได้ทรงมีพระราชศรัทธาบริจาคเงินจำนวนเพื่อร่วมสมทบในการสร้างอารามและปฏิสังขรณ์พระพุทธรูป ที่มักเสียหายจากการถูกน้ำท่วม จนทำให้ต้องทำการซ่อมแซมอยู่เสมอ เดิมวัดอุภัยภาติการามเป็นวัดจีน แต่ปัจจุบันแปรสภาพเป็นวัดญวนในลัทธิมหายาน ภายในวัดมีวิหารลักษณะเหมือนศาลเจ้า
โดยประชาชนมักมาขอพรที่วัดแห่งนี้ โดยเชื่อว่าจะนำโชคดีมาให้แก่ผู้ที่ทำการค้าขาย และยังช่วย ให้หายจากความเจ็บป่วย ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
- ที่อยู่ :ถนนศุภกิจ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
- เปิดให้เข้าชม :เวลา 06.00 – 18.00 น.
- แผนที่ : https://goo.gl/maps/d2Hemb6y2QbSVfuJA
รูปภาพจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดฉะเชิงเทรา
5. วัดปากน้ำโจ้โล้
วัดปากน้ำโจ้โล้ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง เป็น “วัดที่มีอุโบสถขนาดใหญ่สีทองอร่ามหนึ่งเดียวในประเทศไทย” ที่สวยงามมาก บนหลังคาถูกตกแต่งประดับประดาด้วยพญานาคและธรรมจักรอันงดงาม บริเวณกำแพงแก้วชั้นนอกตกแต่งด้วยลวดลายธรรมจักรสลับกับโคมไฟรูปช้างสามเศียรสวยงามตระการตาสุดๆ ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของ องค์หลวงพ่อโต ภายใต้ฐานองค์หลวงพ่อโตได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ลอดผ่านเพื่อความเป็นสิริมงคล
นอกจากความสวยงามแล้ว วัดปากน้ำโจ้โล้ยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ในยุคของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เดิมวัดแห่งนี้เป็นสำนักสงฆ์ และพื้นที่บริเวณใกล้เคียงยังเคยเป็นที่ตั้งของกองทัพพม่ามาก่อน ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีชัยในการรบเหนือพม่าจึงโปรดฯ ให้สร้างเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ที่วัดแห่งนี้ จึงเป็นที่มาว่าบริเวณด้านหน้าของหลวงพ่อโตมีรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตั้งอยู่ด้วย ดังนั้น สายบุญที่สนใจประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดวัดปากน้ำโจ้โล้เลยนะคะ
- ที่อยู่ : ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
- เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
- แผนที่ : https://goo.gl/maps/X7FixCtuw4WhBzv9A
รูปภาพจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดฉะเชิงเทรา
6. วัดบางปรงธรรมโชติการาม
วัดบางปรงธรรมโชติการาม หรือ วัดบางปรง เป็นวัดที่เก่าแก่ และมีความสำคัญแห่งหนึ่ง ของจังหวัดฉะเชิงเทรา มีวิหารหลวงพ่ออู่ทองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คือ “หลวงพ่ออู่ทอง” ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของประชาชนเป็นอย่างมาก
มีความเชื่อว่า หากมาไหว้ขอพร จะประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง
สิ่งที่โดดเด่นของวัดบางปรง คือ มหาเจดีย์ศรีพุทธวรญาณ ซึ่งเป็นเจดีย์องค์ใหญ่และมีความสวยงาม ภายในมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นที่ประดิษฐานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประชาชนมากราบไหว้บูชามากมาย เช่น พระราหู พระพิฆเนศ เป็นต้น ชั้น 2 มีรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศไทย และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 3 พี่น้อง ที่มีความพิเศษเหมือนกัน โดยมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า พระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้ ได้ลอยน้ำมาขึ้นที่ท่าน้ำวัดต่างๆ ได้แก่ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ใน และหลวงพ่อวัดบ้านแหลม และชั้นที่ 3 ที่ยอดของมหาเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุวัดบางปรงธรรมโชติการาม ถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่รวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่ศรัทธาของประชาชนไว้อย่างครบครัน
- ที่อยู่ : ตำบลบางพระ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
- เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
- แผนที่ : https://goo.gl/maps/3UFJtG4cno8NWdvv7
7. วัดวีระโชติธรรมาราม
วัดวีระโชติธรรมาราม เป็นอีกหนึ่งวัดสวยของเมืองแปดริ้ว ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ วัดแห่งนี้โดดเด่นด้วย “อุโบสถแก้วกลางน้ำ” ที่สวยงามสุดๆ ภายนอกเป็นสีขาวนวลตา ภายในประดับประดาด้วยกระจกแก้วเรียงรายนับหมื่นนับพันด้วยความประณีตงดงามทุกรายละเอียด สวยงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ มีองค์พระประธานเป็นหลวงพ่อ 5 องค์ ได้แก่ หลวงพ่อพระพุทธโสธรหลวงพ่อโต วัดบางพลีหลวงพ่อวัดไร่ขิงหลวงพ่อวัดบ้านแหลม และ หลวงพ่อวัดเขาตะเครา ส่วนด้านบนของอุโบสถเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเกศา และพระเกศาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวไทย
หากได้มาสักการะนับเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
- ที่อยู่ : ตำบลคลองหลวงแพ่ง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
- เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
- แผนที่ : https://goo.gl/maps/2LSqpkQ1N4A3axN67
รูปภาพจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดฉะเชิงเทรา
8. วัดอุดมมงคล
วัดอุดมมงคล เป็นวัดแห่งสุดท้ายที่ “พระราชอุดมมงคล” หรือ “หลวงพ่ออุตตมะ” ได้สร้างขึ้นร่วมกับประชาชนผู้มีจิตศรัทธา โดยหลวงพ่ออุตตมะ เป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของประชาชนเป็นอย่างยิ่งจากการสร้างวัดแห่งแรก คือ วังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ในปี พ.ศ. 2496 จนได้รับสมญานามว่า เทพเจ้าแห่งสังขละบุรี
หลังจากที่หลวงพ่ออุตตมะได้มาสร้างวัดอุดมมงคลแห่งนี้ขึ้นที่ฉะเชิงเทรา ในปี พ.ศ. 2542 ปีถัดมาท่านได้มรณภาพ จึงมีการสานต่อเพื่อสร้างวัดให้แล้วเสร็จ ต่อมาภายหลังได้มีการสร้างรูปเหมือนหลวงพ่ออุตตมะองค์ใหญ่ โดดเด่นสะดุดตาด้วยหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 12 เมตรขึ้นภายในวัด เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างไว้ และให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะบูชา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ นอกจากนี้วัดอุดมมงคลยังมีจุดเด่นอีก 2 อย่างด้วยกัน คือ มีการสร้างอุโบสถที่ภายในมีลักษณะคล้ายกับปากถ้ำ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปต่างๆ ให้ได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และมี หลวงพ่อโสธร ที่สร้างมาจากไม้ไผ่สานทั้งองค์ สวยงามมาก พลาดไม่ได้เลยนะคะ
- ที่อยู่ : ตำบลท่าไข่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
- เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
- แผนที่ : https://goo.gl/maps/g4E35ou1zA6Z7aML6
9. วัดหงษ์ทอง
เที่ยวแปดริ้ว ต้องห้ามพลาดวัดสุด Unseen แห่งนี้ นั่นคือ วัดหงษ์ทอง ตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกงมีจุดเด่นอยู่ที่โบสถ์กลางทะเล เคียงคู่กับ เจดีย์พระธาตุคงคามหาเจดีย์ ปรีชาประภากรณ์ ปราชญ์ศรนิลอนุสรณ์สีทองอร่าม โดดเด่นสวยงามกลางทะเล ซึ่งเป็นสถานที่ “บรรจุพระธาตุพระอรหันต์ ในทะเลแห่งแรกของโลก”
พระธาตุคงคามหาเจดีย์นั้นมี 3 ชั้นด้วยกัน ชั้นที่ 1 ประดิษฐานหลวงพ่อพระพุทธโสธรองค์จำลองเพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชากันที่วัดแห่งนี้อีกด้วย ชั้นที่ 2 เป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตองค์จำลอง และหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่สดวัดปากน้ำภาษีเจริญ และชั้นที่ 3 เป็นที่ตั้งของพระธาตุคงคามหาเจดีย์ ซึ่งบรรจุพระธาตุพระอรหันต์ ด้านในมีจิตกรรมฝาผนังและเพดานอันงดงามเกี่ยวกับพุทธศาสนา เมื่ออธิษฐานขอพรเรียบร้อยแล้ว สามารถออกมารับลมเย็นๆจากทะเล และชมวิวสวยๆ ทั้งวิวทะเลและวิวป่าชายเลนข้างเคียง ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งในตอนเย็นที่วัดแห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วย
- ที่อยู่ : ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
- เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.
- แผนที่ : https://goo.gl/maps/rJ4umNLqAFbvuqLD7
รูปภาพจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดฉะเชิงเทรา
และนี่ก็คือ 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองแปดริ้ว ที่สายบุญ หรือสายอื่นๆก็ตาม ที่แวะมา เที่ยวฉะเชิงเทรา ไม่ควรพลาดมาไหว้สักการะ ขอพร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองแปดริ้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลทั้งต่อตนเองและครอบครัว
หากสายบุญท่านใดที่ต้องการเก็บแต้มบุญให้ครบทั้ง 9 แห่ง โดยไม่ต้องรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป และได้มีเวลาดื่มด่ำกับความสวยงาม และบรรยากาศอัน ไปด้วยความศรัทธาของวัดแต่ละแห่ง แนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน และยังมีโอกาสได้เที่ยวฉะเชิงเทรา ในสถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดน้ำโบราณ น้ำตก หรือคาเฟ่สวยๆ ได้อีกด้วย
โรงแรม JK living
ใจกลางเมืองฉะเชิงเทรา ใกล้วัดโสธรวราราม วรวิหาร
สำหรับใครที่กำลังมองหา ที่พักฉะเชิงเทรา ที่อยู่ในทำเลที่สะดวก และใกล้ 1 ใน 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดัง อย่าง วัดหลวงพ่อโสธร เราขอแนะนำ JK Living โรงแรมสวยในสไตล์โมเดิร์น มินิมอลลิสต์ (Modern Minimalist) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก อีกทั้งยังสะอาด ปลอดภัยได้รับรองมาตราฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จากโครงการ SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) พร้อมบริการต่างๆมากมาย ที่รับรองว่าคุณจะได้พักผ่อนอย่างสะดวกสบายแน่นอน
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ได้ JK-Living
หรือต้องการ ติดต่อสอบถามและจองห้องพัก
โทร : 092-7429929 และ 038-511255